วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554
กล้อง DSLR จิ๋ว"ถ่ายรูป-เปลี่ยนเลนส์"ได้
บริษัท JTT ในญี่ปุ่นได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อ CHOBi CAM ONE กล้อง DSLR ที่ย่อส่วนเสียเล็กจนคุณไม่อยากจะเชื่อว่า มันทำงานได้จริงๆ ซึ่งในขณะที่ขนาดของตัวกล้องแค่ 2.5 x 2.5 x 2.6 ซม. และมีน้ำหนักเพียง 12 กรัม มันสามารถใช้ถ่ายรูปที่ความละเอียด 1600 x 1200 พิกเซล (ประมาณ 2 ล้านพิกเซล) ในขณะที่สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่อัตราเฟรม 30 เฟรมต่อวินาที สำหรับภาพ และวิดีโอจะถูกบันทึกลงในการ์ดหน่วยความจำ microSD ที่ขนาดของความจุสูงสุด 32GB
นอกจากคุณสมบัติข้างต้นแล้ว CHOBi CAM ONE ยังมาพร้อมกับ"เลนส์ไวด์"ขนาดเล็กที่ช่วยเพิ่มมุมมองของการถ่ายภาพ และบันทึกวิดีโอได้กว้างยิ่งขึ้น โดยเลนส์ที่ว่านี้สามารถเปลี่ยนได้อีกด้วย แน่นอนว่า CHOBi CAM ONE คงไม่สามารถเทียบได้กับกล้อง DSLR จริงๆ แต่มันสามารถพกใส่กระเป๋าเสื้อ เพื่อนำไปใช้ถ่ายเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา สนนราคาอยู่ที่ 10,000 เยน หรือประมาณ 3,700 บาท เหมาะมากสำหรับให้เป็นของขวัญ ข้างล่างนี้เป็นคลิปวิดีโอที่บันทึกด้วย CHOBi CAM ONE กล้อง DSLR จิ๋วที่เปลี่ยนเลนส์ได้
การดูแลบ้าน...ให้ดูดี
การดูแลบ้าน...ให้ดูดี
ขั้นตอนที่ 1
สภาพแวดล้อมของบ้าน ฝุ่นละออง แสงสว่าง ความร้อนและความชื้นทั้งหมดนี้ล้วนมีผลกระทบต่อสภาพของการตกแต่งในบ้าน ถ้าไม่ระวังข้าวของต่าง ๆ มีสิทธิ์ที่จะเสื่อมสภาพไปได้เหมือนกันเช่น แสงแดดที่มากเกินไปมักเป็นอันตรายต่อวัสดุตามธรรมชาติทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ ผ้า สีย้อมตามธรรมชาติทุกชนิดและกระดาษ จึงควรหลีกเลี่ยงพยายามไม่ให้ภาพวาด เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือผ้าม่านสวย ๆ ต้องถูแสงแดดโดยตรง โดยการหามู่ลี่มาปิดกันแสงไว้เสีย
ขั้นตอนที่ 2
สัตว์นำโรคและแมลง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม คงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกหนีบรรดาสัตว์นำโรคต่าง ๆเช่น หนู แมลงสาบ แมลงกินผ้า มด ยุง วิธีหนึ่งที่พอจะรับมือกับบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็คือ การหมั่นดูดฝุ่นและทำความสะอาดบริเวณเหล่านี้ให้ดี หมั่นตรวจสอบไปรอบ ๆ บ้าน เมื่อพบเจออะไรที่ผิดปกติก็ควรรีบหาทางแก้ไขเสียแต่เนิ่น ๆ แต่การกำจัดแมลงหรือสัตว์ในบ้านบางชนิด อาจต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย หากสุดความสามารถจริง ๆ แล้วก็อาจต้องพึ่งบริษัทกำจัดแมลง
ขั้นตอนที่ 3
ดูแลของเก่าในบ้าน สิ่งที่เป็นศัตรูสำหรับของเก่าก็คือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งมีหลักง่าย ๆ ว่าอย่าให้อากาศโดยรอบแห้งจนเกินไป อย่าให้ถูกแสงแดดตรง ๆ โดยตั้งไว้ในที่ที่จะถูกกระทบได้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะโดนคนหรือของตกแต่งชิ้นอื่น และเคลื่อนย้ายหรือจับต้องอย่างเบามือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับของที่บอบบางหรือแตกได้
ขั้นตอนที่ 4
เฟอร์นิเจอร์ไม้ ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ถูกที่ โดยไม่ให้อยู่ใกล้แหล่งความร้อนหรือตั้งบนพื้นที่เปียกชื้นแต่ควรตั้งในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และมีอุณหภูมิของอากาศที่ค่อนข้างคงที่ ถึงแม้จะเป็นไม้เก่าแค่ไหนก็ต้องระวังเรื่องแสงสว่างให้มาก อย่าให้ถูกแสงแดด แสงสปอตไลท์ และแสงจากโคมไฟโดยตรง รอยขีดข่วนของข้าวของที่วางบนเฟอร์นิเจอร์ไม้และรอยหยดน้ำต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนมีผลต่อความงามของเนื้อไม้ทั้งสิ้น ทางที่ดีควรจัดหาแผ่นรองแก้วและสิ่งของอื่น ๆ เพื่อไม่ให้สัมผัสกับพื้นผิวของไม้โดยตรง และปัดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แมลงมาเจาะกินอาศัยเนื้อไม้ได้
ขั้นตอนที่ 5
ภาพวาด ทั้งภาพสีน้ำและสีน้ำมัน ซึ่งจะมีองค์ประกอบของภาพจำพวกไม้ ผ้าใบ สีฝุ่น น้ำมันเคลือบเงา ล้วนเปลี่ยนแปลงได้ตามอุณหภูมิที่ขึ้นลง ภาพสวย ๆ อาจจะหด งอ บิดเบี้ยวหรือแตกได้ ถ้าได้รับความร้อนมากเกินไป เพราะฉะนั้นควรแขวนภาพไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี ไม่ควรใช้มือจับพื้นผิวของภาพโดยตรงและหากจะทำการเคลื่อนย้ายภาพไปไหน ๆ ก็ควรห่อด้วยวัสดุกันกระแทกหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ภาพได้รับความกระทบกระเทือนมากนัก
ขั้นตอนที่ 1
สภาพแวดล้อมของบ้าน ฝุ่นละออง แสงสว่าง ความร้อนและความชื้นทั้งหมดนี้ล้วนมีผลกระทบต่อสภาพของการตกแต่งในบ้าน ถ้าไม่ระวังข้าวของต่าง ๆ มีสิทธิ์ที่จะเสื่อมสภาพไปได้เหมือนกันเช่น แสงแดดที่มากเกินไปมักเป็นอันตรายต่อวัสดุตามธรรมชาติทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ ผ้า สีย้อมตามธรรมชาติทุกชนิดและกระดาษ จึงควรหลีกเลี่ยงพยายามไม่ให้ภาพวาด เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือผ้าม่านสวย ๆ ต้องถูแสงแดดโดยตรง โดยการหามู่ลี่มาปิดกันแสงไว้เสีย
ขั้นตอนที่ 2
สัตว์นำโรคและแมลง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม คงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกหนีบรรดาสัตว์นำโรคต่าง ๆเช่น หนู แมลงสาบ แมลงกินผ้า มด ยุง วิธีหนึ่งที่พอจะรับมือกับบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็คือ การหมั่นดูดฝุ่นและทำความสะอาดบริเวณเหล่านี้ให้ดี หมั่นตรวจสอบไปรอบ ๆ บ้าน เมื่อพบเจออะไรที่ผิดปกติก็ควรรีบหาทางแก้ไขเสียแต่เนิ่น ๆ แต่การกำจัดแมลงหรือสัตว์ในบ้านบางชนิด อาจต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย หากสุดความสามารถจริง ๆ แล้วก็อาจต้องพึ่งบริษัทกำจัดแมลง
ขั้นตอนที่ 3
ดูแลของเก่าในบ้าน สิ่งที่เป็นศัตรูสำหรับของเก่าก็คือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งมีหลักง่าย ๆ ว่าอย่าให้อากาศโดยรอบแห้งจนเกินไป อย่าให้ถูกแสงแดดตรง ๆ โดยตั้งไว้ในที่ที่จะถูกกระทบได้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะโดนคนหรือของตกแต่งชิ้นอื่น และเคลื่อนย้ายหรือจับต้องอย่างเบามือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับของที่บอบบางหรือแตกได้
ขั้นตอนที่ 4
เฟอร์นิเจอร์ไม้ ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ถูกที่ โดยไม่ให้อยู่ใกล้แหล่งความร้อนหรือตั้งบนพื้นที่เปียกชื้นแต่ควรตั้งในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และมีอุณหภูมิของอากาศที่ค่อนข้างคงที่ ถึงแม้จะเป็นไม้เก่าแค่ไหนก็ต้องระวังเรื่องแสงสว่างให้มาก อย่าให้ถูกแสงแดด แสงสปอตไลท์ และแสงจากโคมไฟโดยตรง รอยขีดข่วนของข้าวของที่วางบนเฟอร์นิเจอร์ไม้และรอยหยดน้ำต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนมีผลต่อความงามของเนื้อไม้ทั้งสิ้น ทางที่ดีควรจัดหาแผ่นรองแก้วและสิ่งของอื่น ๆ เพื่อไม่ให้สัมผัสกับพื้นผิวของไม้โดยตรง และปัดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แมลงมาเจาะกินอาศัยเนื้อไม้ได้
ขั้นตอนที่ 5
ภาพวาด ทั้งภาพสีน้ำและสีน้ำมัน ซึ่งจะมีองค์ประกอบของภาพจำพวกไม้ ผ้าใบ สีฝุ่น น้ำมันเคลือบเงา ล้วนเปลี่ยนแปลงได้ตามอุณหภูมิที่ขึ้นลง ภาพสวย ๆ อาจจะหด งอ บิดเบี้ยวหรือแตกได้ ถ้าได้รับความร้อนมากเกินไป เพราะฉะนั้นควรแขวนภาพไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี ไม่ควรใช้มือจับพื้นผิวของภาพโดยตรงและหากจะทำการเคลื่อนย้ายภาพไปไหน ๆ ก็ควรห่อด้วยวัสดุกันกระแทกหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ภาพได้รับความกระทบกระเทือนมากนัก
เกร็ดการดูแลภาชนะและเครื่องใช้ในบ้าน
เกร็ดการดูแลภาชนะและเครื่องใช้ในบ้านมาคลายปัญหา และขจัดความยุ่งยากจากงานบ้านที่แสนจะจุกจิกด้วยเกร็ดความรู้เล็กๆน้อย กันเถอะ 1.การล้างตู้เย็น จะล้างตู้เย็นให้สะอาดให้ใช้โซดาคาร์บอเนต(โซดาทำขนม หรือ เบ็กกิ้งโซดา) 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงในน้ำประมาณ 1 ลิตร หรือ 4 ถ้วย แล้วล้างออก กลิ่นเหม็นจะหมดไป2.การล้างจานหรืออ่างที่เป็นสแตนเลนส อ่างล้างจานหรือตู้เก็บถ้วยจานที่เป็นสแตนเลสให้ใช้แอลกอฮอล์หรือยาสีฟันทาแล้วจึงขัดออก ทำความสะอาดด้วยน้ำอีกครั้ง เช็ดด้วยผ้านุ่นๆ ให้แห้งทุกอย่างก็จะเงางามสดใสเหมือนใหม่ 3.การล้างขวดแก้ว ขวดแก้วที่หมองขุ่น ให้ใส่ทรายลงไปเล็กน้อยเติมน้ำอย่าให้เต็ม เขย่าแรงๆ แล้วจึงเทออก ล้างด้วยน้ำผสมผงซักฟอก แล้วจึงล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า ขวดจะใส 4.การล้างภาชนะที่เปื้อนแป้ง ไข่ หรือนม จาม ชาม หรือภาชนะที่เปื้อน แป้ง ไข่ หรือนม ให้ล้างด้วยน้ำเย็นธรรมดาจะล้างออกง่ายกว่าน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะทำให้แป้ง ไข่ หรือนมติดแน่นยิ่งขึ้น เนื่องจากความร้อนทำให้แป้ง ไข่ หรือนมที่ติดอยู่กับภาชนะสุกทางที่ดีควรใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดออกก่อนแล้วล้างด้วยสบู่หรือ น้ำยาล้างจาน จากนั้นจึงล้างด้วยน้ำสะอาด 5.การล้างถาดเงิน ถาดเงินเมื่อใช้แล้วต้องล้างให้สะอาดทันทีแล้วเช็ดให้แห้งก่อนนำไปเก็บ การเก็บรักษาเพื่อไม่ให้ถาดเงินเป็นรอยด่างดำ ให้วางสารส้มไว้ในถาดสัก 1 ก้อน จะทำให้ถาดนั้นสะอาด อยู่เสมอ |
วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554
ฮวงจุ้ยแต่งบ้าน แก้เคล็คด้วยสี
![]() |
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
แก้เคล็ดฮวงจุ้ยด้วยสี
1.สีแดง
เสริมดวงการเงิน เกียรติยศชื่อเชียง พลังชีวิต แก้ไขความอ่อนแอของจิตวิญญาณ
2.สีชมพู
เสริมความนุ่มนวล ความห่วงใยอาทร แก้ไขความเย็นชา ปราศจากความรัก และความอ่อนโยน
3.สีม่วง
เสริมความมั่งมีศรีสุข และชื่อเสียงลาภยศ แก้ไขความหยุดนิ่งของดวงชะตา
4.สีเขียว
เสริมความสงบ ความหวัง และความมั่นคงปลอดภัย แก้ไขความติดขัด อุปสรรคต่างๆ และความร้อนรนวุ่นวาย
5.สีเหลือง
เสริมอำนาจบารมีและโชคทรัพย์ แก้ไขความตกต่ำ ความอ่อนแอ และความแห้งแล้งของจิตใจ
6.สีส้ม
เสริมความคิดริเริ่ม และความสุขสันต์หรรษา แก้ไขความทึบตัน ความหม่นหมอง และความถดถอยทางจิตวิญญาณ
7.สีฟ้า
เสริมความอบอุ่น การเจริญเติบโต การพัฒนาต่างๆ แก้ไขความเศร้า ความแตกแยก และการหยุดนิ่งเฉื่อยชาของอารมณ์จิตใจ
8.สีเทา
เสริมความสมดุล ความเรียบง่าย แก้ไขความร้อนรน วุ่นวายไร้ระเบียบ
9.สีดำ
เสริมความเคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง แก้ไขความเลื่อนลอย ขาดเอกภาพ
10.สีน้ำตาล
เสริมความมั่นคง บารมี ความสง่างาม แก้ไขความผันแปรต่างๆ
วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554
สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดสิงห์บุรี วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร
วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ในหมู่ 5 ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี หลักฐานที่มีอยู่คือ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการ เมื่อปีจอ ฉศก จุลศักราช 1111 ซึ่งตรงกับปี พ.ศ. 2297 และได้เสด็จไปอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2299 เพื่อสมโภชฉลอง ต่อมาสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ได้เสด็จไปทรงนมัสการ เมื่อปี พ.ศ. 2421 ในครั้งนั้น พระวิหารและพระนอนชำรุดทรุดโทรมมาก เนื่องจากขาดการบูรณะปฏิสังขรณ์มานาน พระธรรมไตรโลก (อ้น) วัดสุทัศน ได้ทูลขอพระราชทานเงินค่านาสำหรับวัดเพื่อทำการปฏิสังขรณ์ พระองค์ก็ได้มอบถวายให้ และโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระบำราศปรปักษ์เป็นที่ปรึกษา การปฏิสังขรณ์ทำเสร็จในปี พ.ศ. 2428
จากพระราชนิพนธ์เรื่อง ระยะทางเสด็จประพาสมณฑลอยุธยา บอกถึงสภาพที่เป็นอยู่เมื่อปี พ.ศ.2421 ว่า " วัดนี้อยู่ ห่างแม่น้ำสามสิบวา เป็นที่ลุ่มน้ำท่วม ต้องทุบถนนและมีสะพานข้าม รอบวิหารพระนอนมีกำแพงแก้วเตี้ย ๆ ชั้นหนึ่ง ตัวพระวิหาร ยาว 1 เส้น 7 วา กว้าง 11 วา เสาข้างในเป็นแปดเหลี่ยม อาการที่พระพุทธไสยาสน์บรรทม ไม่เหมือนอย่างกรุงเก่า หรือกรุงเทพ ฯ พระกรทอดออกไปมากเพราะเขนยหนุนไม่สู้ชันนัก เป็นบรรทมราบ แต่พระบาทซ้อนกันตรงเหมือนอย่างพระนอนทั้งปวง "
พระนอนจักรสีห์ เป็นพระพุทธรูปไสยาสน์ ปางโปรดอสุรินทราหู ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร หรือ วัดพระนอนจักรสีห์ พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่และยาวที่สุดของประเทศ สร้างมานานเก่าแก่จนไม่ทราบ แน่ชัดว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล่าในทำนองนิยายปรำปรา ทำนองเดียวกันกับพระ ปฐมเจดีย์ เช่น กล่าวว่าพระเจ้าสิงหพาหุเป็นผู้สร้าง แต่ก็ไม่มีใครทราบว่าพระเจ้าพาหุคือผู้ใด ครองเมืองอะไร ในยุคสมัยใด สันนิษฐานว่าสร้างก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี องค์พระหันพระเศียรไปทางทิศตะวันออก ความยาว 1 เส้น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ 7 นิ้ว
ภายในตัววัดด้านใน จัดได้อย่างเป็นสัดส่วน ทางด้านหน้าเป็นทางรถสี่เลนส์ ตรงไปยังอาคารที่จอดรถที่จัดไว้อย่างกว้างขวาง ตลอดแนวถนนมีศาลานั่งพักผ่อนแบบมุงหญ้าคาเรียงรายไว้สำหรับให้ท่านได้นั่ง พักผ่อนกัน ทางด้านฝั่งขวาของถนนก็เป็น มุมของอาหารการกิน และสินค้าของฝากอีกหลายชนิด เรียงเป็นแถวยาว มีทั้งสินค้าของดีเมืองสิงห์ และจังหวัดในแถบภาคกลาง วิหารพระนอนจักรสีห์มีขนาดใหญ่มาก ๆ ด้านหน้าทางเข้าไปยังวิหารมีต้นสาละลังกาขนาดใหญ่ ต้นไม้สำคัญในพุทธประวัติ ที่ผลิดอกบานสะพรั่งสวยงามอยู่เสมอ ทางด้านหน้าตัววิหารมีหนังใหญ่จัดไว้ไห้ดู 4-5 แบบและของโบราณหลายชิ้น เช่นเรือโบราณ ฯลฯ ด้านนอกจัดเป็นสถานที่จุดธูปเทียนบูชาก่อนเข้าไปปิดทององค์พระนอนจักรสีห์ ทางด้านใน ตัววิหารเป็นรูปแบบศิลปกรรมอย่างไทยสวยงามทั้งด้านในและด้านนอก ตรงประตูทางเข้า จัดเป็นมุมของวัตถุมงคลที่ทางวัดจัดสร้างมีหลายแบบหลายรุ่นไว้สำหรับคนที่ ต้องการเช่าบูชาติดตัวเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ
ฮวงจุ้ยการแต่งบ้าน
จัดบ้านดีชีวิตรุ่งเรือง
1. ควรตั้งกระถางต้นไม้ที่มุมต่าง ๆ ของบ้าน แต่งห้องรับแขกด้วยอ่างน้ำพุหรือตู้ปลา
3. เปิดไฟในบ้านให้สว่างไสวเสมอ บ้านที่มืดมิดอยู่เสมอเป็นบ้านโชคร้าย
4. ติดกระดิ่งลมที่หน้าต่าง กระดิ่งลมถือเป็นของประดับที่เสริมโชคลาภ
1. ควรตั้งกระถางต้นไม้ที่มุมต่าง ๆ ของบ้าน แต่งห้องรับแขกด้วยอ่างน้ำพุหรือตู้ปลา
2. อย่าให้บ้านแล้งหรือขาดน้ำและต้นไม้ ซึ่งเป็นพลังแห่งชีวิต บ้านที่ไม่มีความเขียวสดของต้นไม้มักเป็นบ้านที่ขาดโชคลาภ
3. เปิดไฟในบ้านให้สว่างไสวเสมอ บ้านที่มืดมิดอยู่เสมอเป็นบ้านโชคร้าย
4. ติดกระดิ่งลมที่หน้าต่าง กระดิ่งลมถือเป็นของประดับที่เสริมโชคลาภ
5. แขวนลูกแก้วคริสตับไว้ที่ขอบประตูหรือตั้งไว้บนโต๊ะ เพื่อกระจายพลังที่ดีให้ไหลเวียนทั่วบ้าน ปัดเป่าพลังที่ชั่วร้าย ดึงดูดโชคดีและนำความราบรื่นเรียบร้อยมาให้
===============================================
บ้านบุศรินทร์ โรงแรม ที่พักหรู ใจกลางเมืองสิงห์บุรี สะอาด สะดวก ราคาถูก พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย เฟอร์นิเจอร์ครบ หิ้วกระเป๋าอยู่ได้เลย http://www.baanbudsarin.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)